วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ชื่อพายุ (I) ความหมาย ประเทศที่มา
Damrey ดอมเรย ช้าง กัมพูชา
Haikui ไห่คุ้ย - สาธารณรัฐประชาชนจีน
Kirogi ไคโรจิ ห่านป่า (ฝูงนกที่อพยพมาเกาหลีในฤดูใบไม้ร่วง และอพยพจากไปทางตอนเหนือในต้นฤดูใบไม้ผลิซึ่งมีพฤติกรรมคล้ายกับพายุไต้ฝุ่น) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
Kai-tak ไคตั๊ก ชื่อสนามบินเก่าของฮ่องกง ฮ่องกง (สาธารณรัฐประชาชนจีน)
Tembin เทมบิง ราศีตุล ตาชั่ง ญี่ปุ่น
Bolaven โบลาเวน ที่ราบสูง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
Sanba SAN-BA ชื่อสถานที่ในมาเก๊า Place name in Macoa มาเก๊า
Jelawat เจอลาวัต ชื่อปลาน้ำจืด มาเลเซีย
Ewiniar เอวิเนียร์ ชื่อเทพเจ้าแห่งพายุ [ภาษาพื้นเมืองของเกาะชุก (Chuuk)] ไมโครนีเซีย
Mariksi MA-LIK-SI คำคุณศัพท์ในภาษาประจำชาติของฟิลิปปินส์(?)มีความหมายว่า"รวดเร็ว" Filipino adjective which means fast ฟิลิปปินส์
Gaemi เกมี มด สาธารณรัฐเกาหลี
Prapiroon พระพิรุณ ฃื่อเทพเจ้าแห่งฝน ไทย
Maria มาเรีย ชื่อผู้หญิง [ภาษาพื้นเมืองของหมู่เกาะมาเรียนา (Mariana)ในมหาสมุทราแปซิฟิก] สหรัฐอเมริกา
Son Tinh SON-TING เทพเจ้าแห่งขุนเขาตามตำนานเทพของเวียดนาม (God of Mountain in Vietnamese myth) เวียดนาม
Bopha โบพา ชื่อดอกไม้ / ชื่อเด็กหญิง กัมพูชา
Wukong หวู่คง ชื่อวีรบุรุษในตำนานจีน สาธารณรัฐประชาชนจีน
Sonamu โซนามุ ต้นส้น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
Shanshan ซานซาน ชื่อหญิงสาว ฮ่องกง (สาธารณรัฐประชาชนจีน)
Yagi ยางิ ราศีมังกร แพะ ญี่ปุ่น
Leepi LEE-PI น้ำตกที่สวยที่สุดทางตอนใต้สุดของประเทศลาว(The most beautiful waterfall in the end of Southern of Lao) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
Bebinca เบบินคา ชื่อขนมพุดดิงของมาเก๊า มาเก๊า
Rumbia รุมเบีย ต้นปาล์ม มาเลเซีย
Soulik ซูลิก ตำแหน่งหัวหน้าเผ่าโบราณของเกาะโปนเป (Pohnpei) ไมโครนีเซีย
Cimaron ซิมารอน วัวป่าในฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์
Jebi เชบี นกนางแอ่น สาธารณรัฐเกาหลี
Mangkhut มังคุด MUNG-KUUT ชื่อผลไม้ ไทย
Utor อูตอร์ แนวพายุฝนฟ้าคะนอง [ภาษาพื้นเมืองหมู่ชาวเกาะมาร์แชลล์ (Marshall)ในมหาสมุทรแปซิฟิก] สหรัฐอเมริกา
Trami จ่ามี ชื่อดอกไม้ เวียดนาม
Kong-rey กองเรย ชื่อสาวงามในตำนานเขมร ชื่อภูเขา กัมพูชา
Yutu ยู่ทู่ กระต่ายในตำนานจีน สาธารณรัฐประชาชนจีน
Toraji โทราจิ ชื่อต้นไม้ มีดอกสวยงาม พบในหุบเขาของเกาหลี รากใช้ทำอาหารและยา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
Man-yi มานหยี่ ชื่อช่องแคบ ปัจจุบันเป็นอ่างเก็บน้ำ ฮ่องกง (สาธารณรัฐประชาชนจีน)
Usagi อุซางิ กระต่าย ญี่ปุ่น
Pabuk ปาบึก (ปลาบึก) ชื่อปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
Wutip หวู่ติ๊บ ผีเสื้อ มาเก๊า
Sepat เซอปัต ปลาน้ำจืดซึ่งมีครีบเล็ก ๆ สำหรับคลาน มาเลเซีย
Fitow ฟิโทว์ ชื่อดอกไม้สวย มีกลิ่นหอม [ภาษาพื้นเมืองของเกาะยาป ( Yap) ] ไมโครนีเซีย
Danas ดานัส ประสบการณ์และความรู้สึก ฟิลิปปินส์
Nari นารี ดอกไม้ สาธารณรัฐเกาหลี
Wipha วิภา ชื่อผู้หญิง ไทย
Francisco ฟรานซิสโก ชื่อผู้ชาย [ภาษาพื้นเมืองของหมู่เกาะมาเรียนา(Mariana)ในมหาสมุทรแปซิฟิก] สหรัฐอเมริกา
Lekima เลกีมา ชื่อผลไม้ เวียดนาม
Krosa กรอซา ปั้นจั่น กัมพูชา
Haiyan ไห่เยี่ยน ชื่อนกทะเล สาธารณรัฐประชาชนจีน
Podul โพดอล ต้นหลิว ต้นไม้ที่มักพบในตัวเมืองและชนบทของเกาหลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
Lingling เหล่งเหลง ชื่อหญิงสาว ฮ่องกง (สาธารณรัฐประชาชนจีน)
Kajiki คะจิกิ ชื่อปลาทะเลที่เกล็ดจะเปลี่ยนสีเมื่อพ้นน้ำ ญี่ปุ่น
Faxai ฟ้าใส ชื่อผู้หญิง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
PEIPAH เพผ่า ชื่อปลาสวยงาม (แทน Vamei) มาเก๊า
(Vamei) (ฮัวเหม่ย) นกชนิดหนึ่งมีเสียงร้องไพเราะ
Tapah ตาปาห์ ชื่อปลาน้ำจืด มาเลเซีย
Mitag มิแทก ชื่อผู้หญิง {ภาษาพื้นเมืองของเกาะในประเทศไมโครนีเชีย} ไมโครนีเซีย
Hagibis ฮากิบิส รวดเร็ว ว่องไว ฟิลิปปินส์
Neoguri โนกูรี สนุขพันธุ์ราคูน สาธารณรัฐเกาหลี
Rammasun รามสูร ชื่อยักษ์ในเทพนิยายไทย ไทย
Chataan ชาทาอาน ฝน [ภาษาพื้นเมืองของหมู่เกาะมาเรียนา(Mariana)ในมหาสมุทรแปซิฟิก] สหรัฐอเมริกา
Halong หะลอง ชื่ออ่าวสวยงามในเวียดนาม เวียดนาม
Nakri นากรี ชื่อดอกไม้ กัมพูชา
Fengshen ฟงเฉิน ชื่อเทพเจ้าแห่งลม สาธารณรัฐประชาชนจีน
Kalmaegi คัลเมจิ นกนางนวล ( สัญลักษณ์แห่งท้องทะเล ) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
Fung-wong ฟองวอง ชื่อยอดเขา ฮ่องกง (สาธารณรัฐประชาชนจีน)
Kammuri คัมมุริ มงกุฎ ญี่ปุ่น
Phanfone พันฝน สัตว์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
Vongfong หว่องฟง ชื่อแมลง มาเก๊า
Rusa รูซา กวาง มาเลเซีย
Sinlaku ซินลากอ ชื่อเทพธิดาในนิยาย ไมโครนีเซีย
Hagupit ฮากุปิต เฆี่ยนตี ฟิลิปปินส์
Jangmi ชังมี กุหลาบ สาธารณรัฐเกาหลี
Mekkhala เมขลา ชื่อเทพธิดาในเทพนิยายไทย ไทย
Higos ฮีโกส ชื่อพืชชนิดหนึ่ง [ภาษาพื้นเมืองหมู่เกาะมารีน่า(Mariana) ในมหาสมุทรแปซิฟิก] สหรัฐเมริกา
Bavi บาหวี่ ชื่อภูเขาในภาคเหนือของเวียดนาม เวียดนาม
Maysak ไม้สัก ชื่อต้นไม้ [ ภาษาพื้นเมืองชองหมู่เกาะมารีนา (Mariana) ในมหาสมุทรแปซิฟิก] กัมพูชา
Haishen ไห่เฉิน ชื่อเทพเจ้าแห่งท้องทะเล สาธารณรัฐประชาชนจีน
Pongsona พงโซนา ชื่อดอกไม้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
Yanyan ยันยัน ชื่อสาวน้อย ฮ่องกง (สาธารณรัฐประชาชนจีน)
Kujira คุจิระ ปลาวาฬ ญี่ปุ่น
Chan-hom จันหอม (จันทน์หอม) ชื่อต้นไม้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
Linfa หลิ่นฟ้า ดอกบัว มาเก๊า
Nangka นังกา ชื่อผลไม้ มาเลเซีย
Soudelor เซาเดโลร์ ชื่อหัวหน้าเผ่าในเทพนิยายของชาวเกาะโปนเป( Pohnpei) ไมโครนีเซีย
Imbudo อิมบุโด พายุงวงช้าง ฟิลิปปินส์
Goni โคนี หงส์ซึ่งส่งเสียงร้อง สาธารณรัฐเกาหลี
Morakot มรกต มรกต ไทย
Etau เอตาว เมฆพายุ [ภาษาพื้นเมืองของเกาะปาเลา (Palau)] สหรัฐอเมริกา
Vamco หว่ามก๋อ ชื่อแม่น้ำในภาคใต้ของเวียดนาม เวียดนาม
Krovann กรอวาญ ชื่อต้นไม้ กัมพูชา
(กระวาน)
Dujuan ตู้เจี้ยน ชื่อไม้ดอก สาธารณรัฐประชาชนจีน
Maemi เมมิ สัตว์ชนิดหนึ่งซึ่งมักส่งเสียงร้องในฤดูร้อน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
เมื่อเวลาเกิดพายุไต้ฝุ่นเข้าสู่ประเทศเกาหลี
Choi-wan ฉอยหวั่น เมฆซึ่งมีสีสันสวยงาม ฮ่องกง (สาธารณรัฐประชาชนจีน)
Koppu คอบปุ ปล่องภูเขาไฟ, หลุม หรือแก้ว ญี่ปุ่น
Kitsana กิสนา (กฤษณา) ชื่อต้นไม้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
Parma ป้าหม่า อาหารชนิดหนึ่งของมาเก๊า ประกอบด้วยเนื้อสะโพก ตับ และเห็ด มาเก๊า
Melor เมอโลร์ ดอกมะลิ มาเลเซีย
Nepartak เนพาร์ตัก นักรบผู้มีชื่อเสียง ไมโครนีเซีย
Lupit ลูปีต ความโหดร้ายทารุณ ฟิลิปปินส์
Sudal ซูแดล นาก สาธารณรัฐเกาหลี
Nida นิดา ชื่อผู้หญิง ไทย
Omais โอไมส์ การเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ [ภาษาพื้นเมืองของเกาะปาเลา (Palau)] สหรัฐอเมริกา
Conson โกนเซิน ชื่อโบราณสถาน เวียดนาม
Chanthu จันทู ชื่อดอกไม้ กัมพูชา
Dianmu เตี้ยนหมู่ เจ้าแม่สายอสุนี สาธารณรัฐประชาชนจีน
Mindulle มินดอนเล ดอกไม้เล็ก ๆสีเหลืองบานในฤดูใบไม่ผลิ สื่อถึงจิตใจที่อ่อนโยนและบริสุทธิ์ของสาวเกาหลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
Tingting เถ่งเถง ชื่อสาวน้อย ฮ่องกง (สาธารณรัฐประชาชนจีน)
Kompasu คอมปาซุ วงเวียน ญี่ปุ่น
Namtheun น้ำเทิน ชื่อแม่น้ำ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
Malou หม่าโหล หินโมรา มาเก๊า
Meranti เมอรันตี ชื่อต้นไม้ มาเลเซีย
Rananim รานานิม คำสวัสดี [ภาษาพื้นเมืองของเกาะชุก (Chuuk)] ไมโครนีเซีย
Malakas มาลากัส แข็งแกร่ง เต็มไปด้วยพลัง ฟิลิปปินส์
Megi เมกี ปลา สาธารณรัฐเกาหลี
Chaba ชบา ดอกชบา (ดอกไม้เขตร้อนชนิดหนึ่ง) ไทย
Aere แอรี สหรัฐอเมริกา
Songda ซงด่า ชื่อแม่น้ำในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม เวียดนาม

Sarika สาลิกา ชื่อนกชนิดหนึ่ง ชอบร้องเพลง กัมพูชา
Haima ไหหม่า ม้าน้ำ สาธารณรัฐประชาชนจีน
Meari มิอะริ เสียงสะท้อน(หมายถึง ทันทีที่เกิดพายุไต้ฝุ่น คำประกาศแจ้งของคณะกรรมการไต้ฝุ่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
ก็จะสะท้อนก้องไปสู่ประเทศสมาชิก)
Ma-on หมาง้อน อานม้า ฮ่องกง (สาธารณรัฐประชาชนจีน)
Tokage โทะคาเงะ สัตว์เลื้อยคลาน พวกจิ้งจก ตุ๊กแก ญี่ปุ่น
Nock-ten นกเตน (นกกระเต็น) ชื่อนก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
Muifa หมุ่ยฟ้า ดอกพลัมบาน มาเก๊า
Merbok เมอร์บุก ชื่อนก มาเลเซีย
Namadol นันมาดอล โบราณสถานที่มีชื่อเสียงของโปนเป (Pohnpei) หรือ เวนิชแห่งแปซิฟิก ไมโครนีเซีย
Talas ตาลัส แหลมคม ฟิลิปปินส์
Noru โนรู กวาง สาธารณรัฐเกาหลี
Kulap กุหลาบ ชื่อดอกไม้ ไทย
Roke โรคี ชื่อผู้ชาย [ในภาษาพื้นเมืองของหมู่เกาะมาเรียนา (Mariana)ในมหาสมุทรแปซิฟิก] สหรัฐอเมริกา
Sonca เซินกา ชื่อนกชนิดหนึ่ง ชอบร้องเพลง เวียดนาม
Nesat เนสาด ชาวประมง กัมพูชา
Haitang ไห่ถาง ชื่อผลไม้ของจีน สาธารณรัฐประชาชนจีน
Nalgae นาลแก ปีก (หมายถึงการโบยบิน เคลื่อนที่ เคลื่อนไหวอย่างมีอิสระ) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
Banyan บันยัน ชื่อต้นไม้ ฮ่องกง (สาธารณรัฐประชาชนจีน)
Washi วาชิ ชื่อหมู่ดาว นกอินทรีย์ ญี่ปุ่น
Matsa มัดสา (มัศยา,มัตสยา,มัสยา) ปลาตัวเมีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
Sanvu ซันหวู่ หินปะการัง มาเก๊า
Mawar มาวาร์ กุหลาบ มาเลเซีย
Guchol กูโชล เครื่องเทศชนิดหนึ่ง ไมโครนีเซีย
Talim ตาลิม แหลมคม หรือ ด้านคมของใบมีด ฟิลิปปินส์
Nabi นาบี ผีเสื้อ สาธารณรัฐเกาหลี
Khanun ขนุน ชื่อผลไม้ ไทย
Vicente วีเซนเต เมฆ [ภาษาชามาร์โร Chamarro)] สหรัฐอเมริกา
Saola ซาวลา สัตว์ชนิดหนึ่ง ค้นพบในเวียดนาม เวียดนาม
มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2551 (จากการประชุมคณะกรรมการไต้ฝุ่นครั้งที่ 40 ณ ประเทศมาเก๊า ระหว่างวันที่ 21-26 พฤศจิกายน 2550 )
ที่มา
http://www.tmd.go.th/info/info.php?FileID=28

การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คืออะไร ?
การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climate change) คือ การเปลี่ยนแปลงลักษณะอากาศเฉลี่ย (average weather) ในพื้นที่หนึ่ง ลักษณะอากาศเฉลี่ย หมายความรวมถึง ลักษณะทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับอากาศ เช่น อุณหภูมิ ฝน ลม เป็นต้น (ดูความหมายของ climate และ weather
คลิ๊กที่นี่)
ในความหมายตามกรอบของอนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ FCCC (Framework Convention on Climate Change) การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อันเป็นผลทางตรง หรือทางอ้อมจากกิจกรรมของมนุษย์ ที่ทำให้องค์ประกอบของบรรยากาศเปลี่ยนแปลงไป นอกเหนือจากความผันแปรตามธรรมชาติ
แต่ความหมายที่ใช้ในคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ IPCC (Intergovernmental Panel on Climate Change) การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเนื่องมาจาก ความผันแปรตามธรรมชาติ หรือกิจกรรมของมนุษย์
มนุษย์มีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศได้อย่างไร ?
กิจกรรมของมนุษย์ที่มีผลทำให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง คือ กิจกรรมที่ทำให้ปริมาณก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases) ในบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น เป็นเหตุให้ภาวะเรือนกระจก (Greenhouse Effect) รุนแรงกว่าที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติ และส่งผลให้อุณหภูมิพื้นผิวโลกสูงขึ้น ที่เรียกว่า ภาวะโลกร้อน (Global warming)
ก๊าซเรือนกระจก คืออะไร ?
ก๊าซเรือนกระจก คือ ก๊าซที่เป็นองค์ประกอบของบรรยากาศ และมีคุณสมบัติยอมให้รังสีคลื่นสั้นจากดวงอาทิตย์ผ่านทะลุมายังพื้นผิวโลกได้ แต่จะดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรดที่แผ่ออกจากพื้นผิวโลกเอาไว้ ก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ และเป็นผลมาจากกิจกรรมของมนุษย์ ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ มีเธน ไนตรัสออกไซด์ ฯลฯ
ภาวะเรือนกระจก คืออะไร ?
ภาวะเรือนกระจก คือ ภาวะที่ชั้นบรรยากาศของโลกกระทำตัวเสมือนกระจก ที่ยอมให้รังสีคลื่นสั้นจากดวงอาทิตย์ผ่านลงมายังพื้นผิวโลกได้ แต่จะดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรดที่แผ่ออกจากพื้นผิวโลกเอาไว้ จากนั้นก็จะคายพลังงานความร้อนให้กระจายอยู่ภายใน บรรยากาศจึงเปรียบเสมือนกระจกที่ปกคลุมผิวโลกให้มีภาวะสมดุลทางอุณหภูมิ และเหมาะสมต่อสิ่งมีชีวิตบนผิวโลก (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.tmd.go.th/knowledge/know_greenhouse01.html)

ภาวะโลกร้อน คืออะไร ?
ภาวะโลกร้อน หมายถึง ภาวะที่อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ภาวะโลกร้อนอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของปริมาณฝน ระดับน้ำทะเล และมีผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อพืช สัตว์ และมนุษย์
โลกกำลังร้อนขึ้นจริงหรือ ?
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1861 (พ.ศ. 2404) อุณหภูมิผิวพื้นเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น และสูงขึ้นประมาณ 0.6 องศาเซลเซียส ในศตวรรษที่ 20 (จากรายงานการประเมินครั้งที่ 3 หรือ Third Assessment Report - TAR ของคณะทำงานกลุ่ม 1 IPCC) จากการวิเคราะห์ข้อมูลในซีกโลกเหนือ ย้อนหลังไป 1,000 ปี พบว่า อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นมากในศตวรรษที่ 20 โดยสูงขึ้นมากที่สุดในทศวรรษที่ 1990 และ ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) เป็นปีที่ร้อนมากที่สุดในรอบ 1,000 ปี

ปริมาณฝนและระดับน้ำทะเลเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ?
ในศตวรรษที่ 20 ปริมาณน้ำฟ้า (น้ำฟ้า หมายถึง น้ำที่ตกลงมาจากฟ้าไม่ว่าจะอยู่ในภาวะของเหลวหรือของแข็ง เช่น ฝน หิมะ ลูกเห็บ) บริเวณพื้นแผ่นดินส่วนใหญ่ของซีกโลกเหนือในเขตละติจูดกลางและละติจูดสูง สูงขึ้นโดยเฉลี่ย 5 - 10 % แต่ลดลงประมาณ 3 % ในบริเวณกึ่งเขตร้อน

ส่วนระดับน้ำทะเล จากข้อมูลทางธรณีวิทยา ปรากฏว่าเมื่อ 6,000 ปีที่ผ่านมาระดับน้ำทะเลของโลกสูงขึ้นในอัตราเฉลี่ยประมาณ 0.5 มม./ปี และในระยะ 3,000 ปีที่ผ่านมา สูงขึ้นเฉลี่ย 0.1 - 0.2 มม./ปี (IPCC, 2001) แต่จากข้อมูลตรวจวัดในศตวรรษที่ 20 ระดับน้ำทะเลของโลกสูงขึ้นในอัตราเฉลี่ย 1 - 2 มม./ปี

ประชาคมโลกตอบสนองต่อปัญหานี้อย่างไร ?
ในการประชุมภูมิอากาศโลกครั้งแรก (The First World Climate Conference) ซึ่งจัดขึ้นที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 12 - 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 นักวิทยาศาสตร์ได้ตระหนักถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก การประชุมครั้งนี้เน้นถึงเรื่องผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่มีต่อมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ และเรียกร้องให้รัฐบาลของแต่ละประเทศให้ความสำคัญกับภูมิอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลงและป้องกันการกระทำของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ซึ่งจะกลับมามีผลกระทบต่อมนุษย์เอง นอกจากนี้ยังได้วางแผนจัดตั้ง "แผนงานภูมิอากาศโลก" (World Climate Programme หรือ WCP) ภายใต้ความรับผิดชอบขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization หรือ WMO), โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme หรือ UNEP) และ International Council of Science Unions หรือ ICSU
หลังจาก พ.ศ. 2522 เป็นต้นมาได้มีการประชุมระหว่างประเทศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอีกหลายครั้ง ที่สำคัญ ๆ ได้แก่ The Villach Conference ประเทศออสเตรีย (9 - 15 ตุลาคม 2528), The Toronto Conference ประเทศแคนาดา (27 - 30 มิถุนายน พ.ศ.), The Ottawa Conference ประเทศแคนาดา (20 - 22 กุมภาพันธ์ 2532), The Tata Conference นิวเดลฮี ประเทศอินเดีย (21 - 23 กุมภาพันธ์ 2532), The Hague Conference and Declaration ประเทศเนเธอร์แลนด์ (11 มีนาคม 2532), The Noordwijk Ministerial Conference ประเทศเนเธอร์แลนด์ (6 - 7 พฤศจิกายน 2532), The Cairo Compact ประเทศอียิปต์ (ธันวาคม 2532) และ The Bergen Conference ประเทศนอรเวย์ (พฤษภาคม 2533) การประชุมเหล่านี้ช่วยให้ประเทศต่าง ๆ ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมากขึ้น ผู้เข้าร่วมประชุม รวมทั้งผู้กำหนดนโยบายในหน่วยงานรัฐบาล นักวิทยาศาสตร์และนักสิ่งแวดล้อม ได้พิจารณาประเด็นทั้งด้านวิทยาศาสตร์และนโยบาย และเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกร่วมมือดำเนินการเกี่ยวกับปัญหานี้
ปี พ.ศ. 2531 องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก และโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ได้จัดตั้ง คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change หรือ IPCC) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินข้อมูลข่าวสารด้านวิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจ-สังคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่ความรู้ความเข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ตลอดจนผลกระทบ การปรับตัว และการบรรเทาปัญหาอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
พ.ศ. 2533 IPCC ได้เสนอรายงานการประเมินครั้งที่ 1 (The First Assessment Report) ซึ่งเน้นย้ำปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ รายงานนี้มีผลอย่างมากต่อสาธารณชนและผู้กำหนดนโยบาย และเป็นพื้นฐานในการเจรจาอนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
ในเดือนธันวาคม 2533 ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติมีมติให้เริ่มดำเนินการเจรจาข้อตกลง โดยตั้งคณะกรรมการเจรจาระหว่างรัฐบาลเพื่อจัดทำร่างอนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Intergovernmatal Nogotiating Committee for a Framework Convention on Climate Change หรือ INC/FCCC) ซึ่งได้มีการประชุมทั้งหมด 5 ครั้ง ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2534 - พฤษภาคม 2535 และเนื่องจากเส้นตายที่จะมีการประชุมสุดยอดของโลก (Earth Summit) หรือการประชุมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (United Nations Conference on Environment and Development หรือ UNCED) ในเดือนมิถุนายน 2535 ผู้เจรจาจาก 150 ประเทศจึงจัดทำร่างอนุสัญญาฯ เสร็จสิ้น และยอมรับที่นิวยอร์ค เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2535
ในการประชุมสุดยอดของโลก เมื่อเดือนมิถุนายน 2535 ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ตัวแทนรัฐบาล 154 รัฐบาล (รวมสหภาพยุโรป) ได้ลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change หรือ UNFCCC) โดยเป้าหมายสูงสุดของ UNFCCC คือ การรักษาระดับปริมาณก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศให้คงที่อยู่ในระดับที่ไม่มีผลกระทบต่อระบบภูมิอากาศ
วันที่ 21 มีนาคม 2537 เป็นวันที่อนุสัญญาฯ มีผลบังคับใช้ เนื่องจากอนุสัญญาฯ ระบุว่าให้มีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน หลังจากประเทศที่ 50 ให้สัตยาบัน
ต่อจากนั้นอีก 6 เดือน คือ วันที่ 21 กันยายน 2537 ประเทศพัฒนาแล้วเริ่มเสนอรายงานแห่งชาติ (National Communications) เกี่ยวกับกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ขณะเดียวกัน คณะกรรมการเจรจาระหว่างรัฐบาลฯ (INC) ได้มีการประชุมกันหลายครั้งเพื่อพิจารณาเรื่องการอนุวัติตามอนุสัญญาฯ การจัดการเกี่ยวกับการเงิน การสนับสนุนเงินทุนและเทคโนโลยีแก่ประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งแนวทางการดำเนินงานและสถาบันที่เกี่ยวข้อง ต่อมาคณะกรรมการชุดนี้ค่อย ๆ ลดบทบาทลง และยุบไป (การประชุมครั้งสุดท้าย เดือนกุมภาพันธ์ 2538) และได้ให้ที่ประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาฯ ( The Conference of the Parties หรือ COP) เป็นองค์กรสูงสุดของอนุสัญญาฯ โดย COP มีหน้าที่ติดตามตรวจสอบการอนุวัติตามอนุสัญญาฯ และประเด็นทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการตัดสินใจสนับสนุนและส่งเสริมการอนุวัติตามอนุสัญญาฯ อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง COP มีการประชุมทุกปี จำนวน 9 ครั้ง จนถึง พ.ศ. 2546 ดังนี้
COP-1
เป็นการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาฯ ครั้งแรก จัดขึ้นที่ เบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม - 7 เมษายน พ.ศ. 2538
COP-2
จัดขึ้นที่ เจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 8 - 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2539
COP-3
จัดขึ้นที่ เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 1 - 10 ธันวาคม พ.ศ. 2540
COP-4
จัดขึ้นที่ บัวโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ระหว่างวันที่ 2 - 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541
COP-5
จัดขึ้นที่ กรุงบอนน์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542
COP-6
จัดขึ้น กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 13 - 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543
COP-7
จัดขึ้นที่ มาราเก็ช ประเทศโมรอคโค ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม - 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544
COP-8
จัดขึ้นที่ นิวเดลฮี ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545
COP-9
จัดขึ้นที่ มิลาน ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 1 - 12 ธันวาคม พ.ศ. 2546
ที่มา
http://www.tmd.go.th/info/info.php?FileID=86
1 เมื่อมีลมพัดมาประทะกับแผ่นโลหะ ปลายข้างหนึ่งของแผ่นโลหะจะกระดกขึ้นมุมที่แผ่นโลหะทำแนวตั้งนี้จะขึ้นอยู่กับความแรงของลม เครื่องมือนี้คือข้อใด



ก. อะมิโนมิเตอร์ ( Anemometer ) ข. บารอมิเตอร์
ค. เทอร์มอมิเตอร์ ง. ไฮโกรมิเตอร์
2. ข้อใด ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นลูกศรยาว มีแพนหางตั้งตรง เป็นตัวบังคับให้ปลายศรลมชี้ไปในทิศทางที่ลมพัดเข้ามา โดยที่แกนของศรลมหมุนไปโดยรอบ


ก. อะมิโนมิเตอร์ ( Anemometer )
ข. ศรลม ( Wind vane )
ค. เทอร์มอมิเตอร์ ง. ไฮโกรมิเตอร์

3.ข้อใด เกิดจากความแตกต่างของความกดอากาศ โดยจะพัดจากบริเวณที่มีความกดอากาศสูงเข้าสู่บริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ ภาพนี้คือ
ก. ภาพแสดงการเกิดลม ข. ภาพแสดงการลมบกลมทะเล
ค. ภาพแสดงการวัดความชื้น ง.ภาพแสดงการวัดความกดดัน
4. ลมข้อใด เกิดขึ้นในตอนกลางวัน เนื่องจากอุณหภูมิของพื้นน้ำที่ได้รับจากดวงอาทิตย์สูงขึ้นช้ากว่าพื้นดิน ทำให้อากาศที่อยู่ใกล้พื้นดินมีอุณหภูมิสูงกว่าอากาศที่อยู่ใกล้พื้นน้ำ
ก. ลมทะเล ( Sea breeze ) ข.ลมบก ( Land breeze )
ค. ลมหุบเขา ง.ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
5.จากรูปนี้หมายถึงนักอุตุนิยมวิทยา นิยมใช้ข้อมูลเกี่ยวกับความกดอากาศ ณ ตำแหน่งต่างๆ ที่ระดับน้ำทะเลซึ่งตรวจวัดได้จากสถานีตรวจอากาศต่างๆ บันทึกลงในข้อใดที่แสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของลมที่พัดผ่านส่วนต่างๆ ของโลก

ก.เส้นไอโซบาร์ ( Isobar ) ข.ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
ค. แผนที่อากาศ (Weather map) ง.ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้


พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันนี้.
ภาคเหนือ
มีหมอกในตอนเช้า กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ทางตอนบนของภาค: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา บริเวณยอดดอย: อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย อุดรธานี นครพนม สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆบางส่วน ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ที่มา
http://www.tmd.go.th/daily_forecast.php
ไหว้เจ้า เสริมดวงชะตา รับ ตรุษจีน2553 นี้

ตรุษจีน ปี2553 ทุกราศีควรไปไหว้ เทพเจ้าเสริมดวงชะตา ดังนี้
ปีชวด(หนู)
ให้ไปไหว้ขอพร “องค์ซำกวง” หรือ “เทพ 3 ตา” วัดทิพย์วารี หลังจราจรกลาง ถ.ตรีเพชร กรุงเทพ

ปีฉลู(วัว)
ให้ไปไหว้ขอพร “เทพหั่วท้อ” หรือ “หมออูโต๋ว” (หมดเทวดา) ที่วัดทิพย์วารี หลังจราจรกลาง ถ.ตรีเพชร กทม.

ปีขาล(เสือ)
ให้ไปไหว้ขอพร “ไท้ส่วยเอี๊ย” ที่ศาลเจ้าเล่งเน่ยยี่ มังกรกมลาวาส(ทำแก้ชง)

ปีเถาะ(กระต่าย)
ให้ไปไหว้ขอพร “เทพเจ้าไท้เอี๊ยง” ที่ศาลเจ้าเล่งเน่ยยี่
มังกรกมลาวาส หรือ วัดทิพย์วารี หลังจราจรกลาง ถ.ตรีเพชร กทม.

ปีมะโรง(งูใหญ่) ให้ไปไหว้ขอพร “เทพเทียงเต็ก” ไหว้ฟ้าดิน หรือไหว้ที่เสาทีกง
ได้ทุกศาลเจ้า

ปีมะเส็ง(งูเล็ก)
ให้ไปไหว้ขอพร “ไท้ส่วยเอี๊ย” ที่ศาลเจ้าเล่งเน่ยยี่ มังกร
กมลาวาส(ทำแก้ชง)
“องค์ไท้อิม” ที่วัดทิพย์วารี หลังจราจรกลาง ถ.ตรีเพชร กทม.

ปีมะเมีย(ม้า)

ให้ไปไหว้ขอพร “องค์เจี้ยงแซ” ไหว้ “เทพเจ้ากวนอู” ที่ ศาลเจ้า
กวนตี่ เยาวราช
หรือที่ไหนก็ได้ที่มี

ปีมะแม(แพะ) ให้ไปไหว้ขอพร “เทพห่วยเต็ก” ไหว้ “เจ้าแม่กวนอิม” ที่ มูลนิธิ
เทียนฟ้า เยาวราช หรือทุกศาลเจ้าที่มี

ปีวอก(ลิง) ให้ไปไหว้ขอพร “ไท้ส่วยเอี๊ย” ที่ศาลเจ้าเล่งเน่ยยี่ มังกรกมลาวาส(
ทำแก้ชง)

ปีระกา(ไก่) ให้ไปไหว้ขอพร “เทพเหล่งเต็ก” ไหว้ “องค์แป๊ะกง” ได้ทุกศาลเจ้าที่
มีแป๊ะกง

ปีจอ(หมา) ให้ไปไหว้ขอพร “องค์ตั่วเหล่าเอี๊ย” ได้ทุกศาลเจ้าที่มีเจ้าพ่อเสือ

ปีกุน(หมู) ให้ไปไหว้ขอพร “ไท้ส่วยเอี๊ย” ที่ศาลเจ้าเล่งเน่ยยี่ มังกรกมลาวาส
(ทำแก้ชง)
"องค์กวนอู” ไหว้ “เทพเจ้ากวนอู” ที่ ศาลเจ้ากวนตี่ เยาวราช หรือ ที่ไหนก็ได้
ที่มี

ถ้า ไม่สามารถไปไหว้เทพเจ้าเสริมดวงชะตาตามที่แนะนำตามศาลเจ้าที่บอก
ได้ให้ดูตาม ศาลเจ้าหรือวัดใกล้บ้านที่มีเทพเจ้าเสริมดวงชะตาตามปีเกิดของคุณ
แล้วขอพรจากองค์เทพนั้นโดยตรง โดยอธิฐานดังนี้

ข้าพเจ้า ขอกราบบูชาและต้อนรับ”.....(ชื่อเทพเจ้าที่เสริมดวงชะตา
ปี2553 ประจำปีเกิดของคุณ)” ซึ่งมาสถิตในเรือนชะตาของ ข้าพเจ้า (ชื่อ-นามสกุล)
ด้วยความศรัทธายิ่งขอได้โปรดประทานพรให้ข้าพเจ้า ปราศจากอุปสรรค แคล้วคลาดจาก
ภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวง พร้อมทั้งประทานความสำเร็จ ความสุขความเจริญ มีสิริ
มงคล สุขภาพแข็งแรง และโชคดีตลอดปี2553 แก่ข้าพเจ้า เทอญ...สาธุ

ตรุษจีน หรือ เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ หรือ ขึ้นปีเพาะปลูกใหม่ และยังรู้จักกันในนาม วันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีของชาวจีนในจีนแผ่นดินใหญ่และชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลก เทศกาลนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 ของปีตามจันทรคติ และสิ้นสุดในวันที่ 15 ซึ่งจะเป็นเทศกาลประดับโคมไฟ
ในวันตรุษจีนจะมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนเชื้อสายจีนขนาดใหญ่ และตรุษจีนถือเป็นวันหยุดที่สำคัญมากช่วงหนึ่งของชาวจีน และยังแผ่อิทธิพลไปถึงการฉลองปีใหม่ของชนชาติที่อยู่รายรอบ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี เมี่ยน ม้ง มองโกเลีย เวียดนาม ทิเบต เนปาล และภูฐาน สำหรับชาวจีนที่อาศัยอยู่ต่างถิ่นกันก็จะมีประเพณีเฉลิมฉลองต่างกันไป ในประเทศไทย
ชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว
วันจ่าย คือวันก่อนวันสิ้นปี เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะปิดร้านหยุดพักผ่อนยาว ในตอนค่ำจะมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อรับการสักการบูชาของเจ้าบ้าน หลังจากที่ได้ไหว้อัญเชิญขึ้นสวรรค์เมื่อ 4 วันที่แล้ว
วันไหว้ คือวันสิ้นปี จะมีการไหว้ 3 ครั้ง คือ
ตอนเช้ามืดจะไหว้ "ไป่เล่าเอี๊ย" เป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ เครื่องไหว้คือ เนื้อสัตว์สามอย่าง (ซาแซ) ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ หรือเพิ่มตับ ปลา เป็นเนื้อสัตว์ห้าอย่าง (โหงวแซ) เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง
ตอนสาย จะไหว้ "ไป่แป๋บ้อ" คือการไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูตาม คติจีน การไหว้ครั้งนี้จะไหว้ไม่เกินเที่ยง เครื่องไหว้จะประกอบด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน (ส่วนมากจะทำตามที่ผู้ที่ล่วงลับเคยชอบ) รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษเพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ญาติพี่น้องจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไปเป็นสิริมงคล และถือเป็นเวลาที่ครอบครัวหรือวงศ์ตระกูลจะรวมตัวกันได้มากที่สุด จะแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว
ตอนบ่าย จะไหว้ "ไป่ฮ่อเฮียตี๋" เป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องไหว้จะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเพื่อเป็นสิริมงคล
วันเที่ยว หรือ วันถือ คือวันขึ้นปีใหม่ เป็นวันที่หนึ่ง ของเดือนที่หนึ่งของปี วันนี้ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบันคือ "ไป่เจีย" เป็นการไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก โดยนำส้มสีทองไปมอบให้ เหตุที่ให้ส้มก็เพราะส้มออกเสียงภาษาจีนแต้จิ๋วว่า "กิก" ซึ่งไปพ้องกับคำว่าความสุขหรือโชคลาภ เพราะฉะนั้นการให้ส้มจึงเหมือนนำความสุขหรือโชคลาภไปให้ จะมอบส้มจำนวน 4 ผล ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าของผู้ชาย เหตุที่เรียกวันนี้ว่าวันถือคือ เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล งดการทำบาป จะมีคติถือบางอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน เป็นต้น
สัญลักษณ์อีกอย่างของเทศกาลนี้ คือ อั่งเปา (ซองแดง) คือ ซองแดงใส่เงินที่ผู้ใหญ่แล้วจะมอบให้ผู้น้อย และมีการแลกเปลี่ยนกันเอง หรือ หรือจะใช้คำว่า แต๊ะเอีย (ผูกเอว) ที่มาคือในสมัยก่อน เหรียญจะมีรูตรงกลาง ผู้ใหญ่จะร้อยด้วยเชือกสีแดงเป็นพวงๆ และนำมามอบให้เด็กๆ เด็กๆ ก็จะนำมาผูกเก็บไว้ที่เอว
ในเทศกาลนี้ ชาวจีนจะกล่าวคำ ห่ออ่วย หรอคำอวยพรภาษาจีนให้กัน หรือมีการติดห่ออ่วยไว้ตามสถานที่ต่างๆ คำที่นิยมใช้กันได้แก่
แต้จิ๋ว: ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ จีนกลาง: ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย แปลว่า ขอให้ประสบโชคดี ขอให้มั่งมีปีใหม่
เกียฮ่อซินนี้ ซินนี้ตั้วถั่น แปลว่า สวัสดีปีใหม่ ขอให้ร่ำรวยๆ
อีกฝ่ายก็จะกล่าวตอบว่า ตั่งตังยู่อี่ แปลว่า ขอให้สุขสมหวังเช่นกัน
ที่มา
http://images.google.com/imgres?imgurl=http://www.lifepitlok.com/images_news/1263171994.jpg&imgrefurl=http://www.lifepitlok.com/&usg=__v00JW7HbMY26yWHUBo8_vLNbwHc=&h=300&w=450&sz=76&hl=th&start=2&sig2=955APENtaT-PZlKDNGThrw&um=1&itbs=1&tbnid=-7KlA1OqtfS57M:&tbnh=85&tbnw=127&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%2599%2B2553%26hl%3Dth%26rls%3Dcom.microsoft:en-US%26sa%3DN%26um%3D1&ei=0HZ1S4jwNYPBrAeaseW8Cg


ลักษณะพื้นที่ มีฝนตกน้อยกว่า 20% ของพื้นที่ หมายถึงข้อใด
ก.ฝนบางพื้นที่(Isolated) ข.ฝนกระจายเป็นแห่งๆ (Widely Scattered)
ค.ฝนกระจาย(Scattered) ง.ฝนเกือบทั่วไป(Almost Widespread)

ลักษณะพื้นที่ มีฝนตกตั้งแต่ 20% ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 40% ของพื้นที่ หมายถึงข้อใด
ก.ฝนบางพื้นที่(Isolated) ข.ฝนเกือบทั่วไป(Almost Widespread)
ค.ฝนกระจาย(Scattered) ง.ฝนกระจายเป็นแห่งๆ (Widely Scattered)

ลักษณะพื้นที่ มีฝนตกตั้งแต่ 40% ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 60% ของพื้นที่ หมายถึงข้อใด
ก.ฝนบางพื้นที่(Isolated) ข.ฝนเกือบทั่วไป(Almost Widespread)
ค.ฝนกระจาย(Scattered) ง.ฝนกระจายเป็นแห่งๆ (Widely Scattered)

ลักษณะพื้นที่ มีฝนตกตั้งแต่ 60% ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 80% ของพื้นที่ หมายถึงข้อใด
ก.ฝนบางพื้นที่(Isolated) ข.ฝนกระจาย(Scattered)
ค.ฝนเกือบทั่วไป(Almost Widespread)ง.ฝนกระจายเป็นแห่งๆ (Widely Scattered)

ลักษณะพื้นที่ มีฝนตกตั้งแต่ 80% ของพื้นที่ ขึ้นไป หมายถึงข้อใด
ก.ฝนบางพื้นที่(Isolated) ข.ฝนทั่วไป(Widespread)
ค.ฝนเกือบทั่วไป(Almost Widespread)ง.ฝนกระจายเป็นแห่งๆ (Widely Scattered)

ฝนตกมีปริมาณตั้งแต่ 10.1 มิลลิเมตร ถึง 35.0 มิลลิเมตร หมายถึงข้อใด
ก.ฝนปานกลาง(Moderate Rain) ข.ฝนหนัก(Heavy Rain)
ค.ฝนหนักมาก(Very Heavy Rain) ง.ฝนเล็กน้อย(Light Rain)

ข้อใด หมายถึง ฝนตกมีปริมาณตั้งแต่ 90.1 มิลลิเมตร ขึ้นไป
ก.ฝนปานกลาง(Moderate Rain) ข.ฝนหนัก(Heavy Rain)
ค.ฝนหนักมาก(Very Heavy Rain) ง.ฝนเล็กน้อย(Light Rain)

ข้อใด หมายถึง ฝนตกมีปริมาณตั้งแต่ 0.1 มิลลิเมตร ถึง 10.0 มิลลิเมตร
ก.ฝนปานกลาง(Moderate Rain) ข.ฝนหนัก(Heavy Rain)
ค.ฝนหนักมาก(Very Heavy Rain) ง.ฝนเล็กน้อย(Light Rain)

ข้อใด หมายถึง ฝนตกมีปริมาณตั้งแต่ 35.1 มิลลิเมตร ถึง 90.0 มิลลิเมตร
ก.ฝนหนัก(Heavy Rain) ข.ฝนปานกลาง(Moderate Rain)
ค.ฝนหนักมาก(Very Heavy Rain) ง.ฝนเล็กน้อย(Light Rain)

ข้อใด หมายถึง ฝนตกมีปริมาณนับไม่ได้
ก.ไม่มีฝนตก ข.ฝนปานกลาง(Moderate Rain)
ค.ฝนหนักมาก(Very Heavy Rain) ง.ฝนเล็กน้อย(Light Rain)

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553


พระธาตุดอยเวาแม่สาย
วัดพระธาตุดอยเวา เป็นวัดอันเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยเวา พระธาตุที่เชื่อกันว่า มีความเก่าแก่เป็นรองพระธาตุดอยตุง พระธาตุดอยเวานั้น ตั้งอยู่บนยอดดอยเวา แต่พระอุโบสถและเขตสังฆาวาสจะอยู่ที่เชิงดอย ผู้ที่จะขึ้นไปนมัสการต้องเดินขึ้นบันไดไปนมัสการ ซึ่งข้างบนเป็นจุดชมทัศนียภาพสองฝั่งสาย สามารถเห็นทัศนียภาพได้รอบทิศประวัติพระธาตุดอยเวาพระธาตุดอยเวา สร้างในพ.ศ. 296 ในรัชสมัยพระองค์เวา รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ ผู้ครองนครโยนกนาคพันธุ์ โดยชื่อนั้นได้นำมาจากพระนามของพระองค์เวา ต่อมาพระธาตุเจดีย์ได้พังลงตามกาลเวลา นายบุญยืน ศรีสมุทร คฤหบดีอำเภอแม่สาย ได้ร่วมกับ พระภิกษุดวงแสง รัตนมณี พร้อมด้วย ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนผู้มีจิตศรัทธา และ กรมศิลปากร ร่วมกันจัดสร้างขึ้นขึ้นใหม่ ในการขุดแต่งครั้งนี้ พบผอบหินสีดำ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 5 พระองค์ จึงได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานในองค์พระธาตุดังเดิม มีการวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2494 และสร้างเสร็จพร้อมฉลองสมโภชพระธาตุในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 โดยมีพุทธบริษัททั้งสองประเทศ ร่วมงานอย่างคับคั่ง
พระธาตุผาเงาวัดพระธาตุผาเงา อำเภอเชียงแสน เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย ได้ชื่อมาจากพระธาตุผาเงาที่อยู่ในบริเวณวัดซึ่งตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่า "ผาเงา" ก็คือ เงาของก้อนผาหรือก้อนหินที่มีลักษณะเป็นรูปสูงใหญ่คล้ายรูปทรงพระเจดีย์และให้ร่วมเงาที่ดีมาก ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "พระธาตุผาเงา" พระธาตุองค์นี้เชื่อกันว่าสร้างมาตั้งแต่ ระหว่าง ปี พ.ศ.๔๙๔ - ๕๑๒ โดย ขุนผาพัง เข้าผู้ครองนครโยนก องค์ที่ ๒๓ สิ่งสำคัญในวัดพระธาตุผาเงา นอกจากพระธาตุผาเงาแล้วยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น พระเจดีย์เจ็ดยอด พระเจดีย์จอมจัน พระวิหาร สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา พระธาตุพุทธนิมิต และซุ้มประตูพระธาตุผาเงาที่มีลวดลายลักษณะสวยงามมาก เป็นสถานปฏิบัติธรรมบนเนื้อที่ประมาณ ๑๔๓ ไร่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ.๑๐๐๕ วิหารใหม่สร้างขึ้นบริเวณที่ขุดพบพระประธาน (หลวงพ่อเงา) บนยอดเขาประดิษฐาน พระบรมธาตุนิมิตรเจดีย์ ซึ่งบริเวณนี้สามารถชมวิว ทิวทัศน์บริเวณเมืองเชียงแสน แม่น้ำโขง แม่น้ำคำ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552


กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

วิทยาศาตร์ออนไลน์
โดย อ.ยุภาภรณ์ เสาโกมุท (27/01/47)- ความรู้ เรื่องการผสมเทียม (Artificial Insemination)- ความรู้ เรื่องการกำเนิดดิน- ความรู้ เรื่องพฤติกรรม (Behavior)- ความรู้ เรื่องระบบการย่อยอาหาร (Digestive System)- ความรู้ เรื่องอาหาร (Food)- ความรู้ เรื่อง ความเป็นกรด-เบสของดิน- ความรู้ เรื่อง ดาว- ความรู้ เรื่อง การเกิดแผ่นดินไหว- ความรู้ เรื่อง ระบบขับถ่าย- ความรู้ เรื่อง ส่วนประกอบของเลือด- ความรู้ เรื่อง แหล่งน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นโดย อ.นฤมล สินธุรัตน์ (27/01/47)- ความรู้ เรื่องสารและสมบัติของสาร- ความรู้ เรื่องสถานะของสาร- ความรู้ เรื่องมวลอะตอมและมวลโมเลกุล- ความรู้ เรื่องทฤษฎีจลน์ของก๊าซ- ความรู้ เรื่องการแยกสาร- ความรู้ เรื่อง พันธะเคมี- ความรู้ เรื่อง การกลั่น- ความรู้ เรื่อง ธาตุและสารประกอบ- ความรู้ เรื่อง สมบัติบางประการของคอลลอยด์- ความรู้ เรื่อง สัญลักษณ์และการเรียกชื่อธาตุโดย อ.ทรงเดช ทองคำ (26/01/47)แบบเรียนด้วยตนเอง (ความรู้และแบบทดสอบ)อาหารโลกและการเปลี่ยนแปลงดิน หิน แร่แบบเรียนด้วยตนเอง (ความรู้และแบบทดสอบ)พันธะเคมี ( เวปอื่น )โครงสร้างอะตอมตารางธาตุโดย อ.รัตนา ชุปวา (27/01/47)- ความรู้ เรื่องการแยกองค์ประกอบของสารเนื้อเดียว- ความรู้ เรื่องความกดอากาศ- ความรู้ เรื่องชั้นบรรยากาศแบ่งตามสมบัติอุตุนิยมวิทยา- ความรู้ เรื่องเมฆ- ความรู้ เรื่องโอโซนและสาร ซี เอฟ ซี- ความรู้ เรื่องสารเนื้อเดียว- ความรู้ เรื่อง กรด - เบสในชีวิตประจำวันและสิ่งแวดล้อม- ความรู้ เรื่อง ปัจจัยที่ควบคุมการแพร่- ความรู้ เรื่อง ปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง- ความรู้ เรื่อง สมบัติบางประการของสารละลายกรด- ความรู้ เรื่อง ส่วนประกอบของเซลล์โดย อ.รจนา ใจห้าว (27/01/47)- ความรู้ เรื่องระบบโครงกระดูก- ความรู้ เรื่องการหมุนเวียนของเลือดและก๊าซ- ความรู้ เรื่องระบบหายใจ- ความรู้ เรื่องระบบสืบพันธ์- ความรู้ เรื่อง กฎการเคลื่อนที่ข้อที่ 1- ความรู้ เรื่อง กฏการเคลื่อนที่ข้อที่ 2โดย อ.สุพัฒรา ดาวหน (27/01/47)- ความรู้ เรื่องการเลี้ยวเบนของคลื่น- ความรู้ เรื่องการเลี้ยวเบนของคลื่นผิวน้ำผ่านช่องเปิดคู่- ความรู้ เรื่องการหักเหของคลื่น- ความรู้ เรื่องคลื่นคืออะไร- ความรู้ เรื่องส่วนประกอบของคลื่น- ความรู้ เรื่อง สมดุลกล- ความรู้ เรื่อง งาน- ความรู้ เรื่อง พลังงาน- ความรู้ เรื่อง อุปกรณ์ในวงไฟฟ้าโดย อ.จงกล บัวสิงห์ (19/01/47)- ความรู้เรื่อง แรง- ความรู้ เรื่องกฎการเคลื่อนที่ข้อหนึ่งของนิวตันหรือกฎความเฉื่อย- ความรู้ เรื่องมวล- ความรู้ เรื่องกฎการเคลื่อนที่ข้อที่สองของนิวตัน- ความรู้ เรื่องสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ- ความรู้ เรื่องกระแสไฟฟ้า- ความรู้ เรื่องคุณสมบัติของแท่งแม่เหล็ก- ความรู้ เรื่องแม่เหล็ก- ความรู้ เรื่องสนามแม่เหล็กโลก- ความรู้ เรื่องเส้นแรงแม่เหล็ก- ความรู้ เรื่องแหล่งกำเนิดไฟฟ้า- ความรู้ เรื่อง การเคลื่อนที่ของเสียง- ความรู้ เรื่อง การเลี้ยวเบน- ความรู้ เรื่อง การสะท้อน- ความรู้ เรื่อง การหักเห- ความรู้ เรื่อง บีตส์- ความรู้ เรื่อง คลื่นนิ่ง- ความรู้ เรื่อง ความถี่ธรรมชาติ- ความรู้ เรื่อง การสั่นพ้อโดย อ.กัญญารัตน์ พรหมคุณ (26/01/47)- ความรู้ เรื่องปฏิกิริยาเคมีในเซลล์- ความรู้ เรื่องเมแทบอลิซึม- ความรู้ เรื่องการสลายสารอาหารแบบใช้ออกซิเจน- ความรู้ เรื่องการสลายอาหารแบบไม่ใช้ออกซิเจน- ความรู้ เรื่อง ชนิดของเอนไซม์- ความรู้ เรื่อง การทำงานของเอนไซม์- ความรู้ เรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา- ความรู้ เรื่อง ตัวยับยั้งเอนไซม์( Inhibitor )- ความรู้ เรื่อง ประโยชน์ของตัวยับยั้งเอนไซม์- ความรู้ เรื่อง โครงสร้างและวิธีการแลกเปลี่ยนก๊าซของสิ่งมีชีวิต- ความรู้ เรื่อง การหายใจของพืชหลังการเก็บเกี่ยว- ความรู้ เรื่อง การตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ของพืช C3 และพืช C4- ความรู้ เรื่อง แหล่งที่เกิดการสังเคราะห์ด้วยแสง- ความรู้ เรื่อง การลำลียงน้ำ แร่ธาตุและอาหารของพืช- ความรู้ เรื่อง ข้อสรุปแตกต่างระหว่างลำต้นของพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่โดย อ.เพชรรัตน์ วงศ์ชา (20/01/47)- ความรู้ เรื่องการผลิตเกลือจากน้ำทะเล- ความรู้ เรื่องเครื่องปั้นดินเผา- ความรู้ เรื่องแร่รัตนชาติ- ความรู้ เรื่องแร่เชื้อเพลิง- ความรู้ เรื่องประเภทของอุตสาหกรรม- ความรู้ เรื่อง สารละลายกรด- ความรู้ เรื่อง การแยกสาร- ความรู้ เรื่อง โครมาโทกราฟฟี- ความรู้ เรื่อง ธาตุกัมมันตรังสีโดย อ.ปาริชาด บัวแย้ม (25/01/47)- ความรู้ เรื่องความหมายฟิสิกส์อะตอม- ความรู้ เรื่องโครงสร้างสาร- ความรู้ เรื่องทฤษฎีอะตอมของดอลตัน- ความรู้ เรื่องการค้นพบรังสีคาโธด- ความรู้ เรื่องการทดลองหาค่าประจุต่อมวลของทอมสัน- ความรู้ เรื่องการทดลองหยดน้ำมันของมิลลิแกน- ความรู้ เรื่องแบบจำลองอะตอมของทอมสัน- ความรู้ เรื่องแบบจำลองอะตอมของรัทเธอร์ฟอร์ด- ความรู้ เรื่องแบบจำลองอะตอมของบอร์- ความรู้ เรื่องสเปกตรัมของอะตอม- ความรู้ เรื่องอนุกรมเส้นสเปกตรัม- ความรู้ เรื่องรัศมีวงโคจร ความเร็วและพลังงานของอิเล็กตรอนตามแบบของบอร์- ความรู้ เรื่องการทดลองของแฟรงค์และเฮริต์- ความรู้ เรื่องรังสีเอกซ์- ความรู้ เรื่องปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กตริก 1- ความรู้ เรื่องปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กตริก 2- ความรู้ เรื่องทวิภาคของคลื่นและอนุภาคของเดอ บรอยล์- ความรู้ เรื่องหลักความไม่แน่นอนและโอกาสเป็นไปได้ของไฮเซนเบริก- ความรู้ เรื่องกลศาสตร์ควอนตัม- ความรู้ เรื่องการเขียนปฏิกิริยานิวเคลียร์- ความรู้ เรื่องการค้นพบนิวตรอน- ความรู้ เรื่องการค้นพบโปรตอน- ความรู้ เรื่องการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี- ความรู้ เรื่องความหมาย ฟิสิกส์นิวเคลียร์- ความรู้ เรื่องชนิดของกัมมันตภาพรังสี- ความรู้ เรื่องปฏิกิริยานิวเคลียร์- ความรู้ เรื่องประวัติการค้นพบกัมมันตภาพรังสี- ความรู้ เรื่องรัศมีนิวเคลียส- ความรู้ เรื่องลูกระเบิดปรมาณูลูกที่สอง- ความรู้ เรื่องเวลาครึ่งชีวิตโดย อ.สมรักษ์ สีหาภาค- ความรู้ เรื่อง สมบัติของเหล็ก- ความรู้ เรื่อง สมบัติของทองแดง- ความรู้ เรื่อง สมบัติของสังกะสี- ความรู้ เรื่อง สมบัติของแคลเซียม- ความรู้ เรื่อง สมบัติของโครเมียม- ความรู้ เรื่อง วิตามิน- ความรู้ เรื่อง โปรตีน- ความรู้ เรื่อง น้ำ- ความรู้ เรื่อง คาร์โบไฮเดรด- ความรู้ เรื่อง ไขมันโดย อ.ศักดดนัย สืบเสน- ความรู้ เรื่อง การถ่ายทอดพันธุกรรม- ความรู้ เรื่อง สิ่งกำหนดเพศในมนุษย์- ความรู้ เรื่อง พันธุศาสตร์- ความรู้ เรื่อง การโคลนยีน (GENE CLONING)- ความรู้ เรื่อง ประวัติของเมนเดลโดย อ.เดช ผิวอ่อน- ความรู้ เรื่อง กำลังไฟฟ้า- ความรู้ เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้า- ความรู้ เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน- ความรู้ เรื่อง เต้ารับและเต้าเสียบ- ความรู้ เรื่อง พลังงานไฟฟ้า- ความรู้ เรื่อง วงจรไฟฟ้า- ความรู้ เรื่อง สะพานไฟที่มา http://patchara1.igetweb.com/index.php?mo=3&art=43827
เขียนโดย ด.ญ.พสิกา จันทร์พุด0 ความคิดเห็น

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552


1/9

เด็กชาย กฤษฎา อุดมประสิทธิ์
เด็กชาย กฤษณพงศ์ คงคา
เด็กชาย กิตติธร ภู่ปรางค์
เด็กชาย ไกรสี เชื้อสมุท
เด็กชาย จักรพันธ์ อ่วมบุญมี
เด็กชาย เจษฎา วงศ์โสภา
เด็กชาย ณัฐพงศ์ ทิ้งชั่ว
เด็กชาย ณัฐพงษ์ เข้าเมือง
เด็กชาย ณัฐวุฒิ เชิดโกทา
เด็กชาย ธงชัย มาดหมาย
เด็กชาย ธนากร แพ่งเมือง
เด็กชาย ธัชพงศ์ กุมภา
เด็กชาย นรสิงห์ ทองชัยเดช
เด็กชาย บรรพต ระงับใจ
เด็กชาย ประทีป คุณศิลป
เด็กชาย พิษณุ ก้านเงิน
เด็กชาย พีรภาส อิ่มเอม
เด็กชาย ภักดิ์ภูมิ ปัญญามณี
เด็กชาย ภานุพงศ์ ประดิษฐ์
เด็กชาย มารุต ทิพโชติ
เด็กชาย วัชรพล เรืองฤทธิ์
เด็กชาย ศตคุณ คะแยแก้ว
เด็กชาย สมชาย เขียวสี
เด็กชาย สิทธิศักดิ์ โนนพยอม
เด็กชาย อภิรักษ์ แก่นใจเด็ด
เด็กชาย อมรเทพ เทียนทองเลิศ
เด็กชาย อุดมศักดิ์ สุดสาย
เด็กหญิง กัญญาวีร์ นงลักษณ์
เด็กหญิง จารุวรรณ บัวแผน
เด็กหญิง จิระกานต์ ระบอบ
เด็กหญิง ชนารีย์ ยาหมู
เด็กหญิง นารีรัตน์ จินดาประทุม
เด็กหญิง พสิกา จันทร์พุด
เด็กหญิง พัชรี อินทรกง
เด็กหญิง มัทนา ลีโต
เด็กหญิง วัชราวดี ระวังภัย
เด็กหญิง ศิริรัตน์ ว่านเครือ
เด็กหญิง สุกัลยาณี พ่ายเวหา
เด็กหญิง โสภา สุขศรี
เด็กหญิง อรญา แสงทอง
Free hi5 Cursors รวมโค้ด แต่งhi5

เกี่ยวกับฉัน

ดิฉันได้จัดทำเว็บบล็อคแห่งนี้ขึ้นเพื่อเรียนรู้แลกเปลี่ยน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ดูหนังสือเตรียมตัวสอบ การสร้างแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์ การนำข้อมูลจัดทำ Microsoft PowerPoint การจัดทำงานแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รูปแบบ e-book เพื่อให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากการเรียนรู้ในห้องเรียน ขอขอบพระคุณเว็บไซต์BLOGSPOT.COM ที่ให้พื้นที่ในการจัดทำเว็บไซต์ฟรีทุกอย่าง ขอขอบพระคุณแหล่งข้อมูลความรู้จากเว็บไซต์ต่างๆที่นำมาลงเป็นบทความค่ะ ประโยชน์จากการเรียนรู้นี้ขอมอบให้ผู้อ่านทุกคน ขอเชิญติ ชม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ หรือข้อเสนอแนะได้ที่เว็บบอร์ดค่ะ tan_mcl@chaiyo.com tel 0836251237

รวม


ครูจำเริญ สุวรรณประสิทธิ์


รวม web กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ
รวม web กลุ่มสาระ กอท.
รวม web กลุ่มสาระศิลปะ
รวม web กลุุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา
รวม web กลุ่มสาระสังคมฯ ศาสนารวม
web กลุ่มสาระคณิตศาตร์
รวม
web กลุ่มสาระภาษาไทย
รวม
web กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์สาระน่ารู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์เนื้อหาสาระทางด้านวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา
ภาษาต่างประเทศสาระน่ารู้ เนื้อหากลุ่มสาระวิชาภาษาต่างประเทศ
ภาษาไทยเนื้อหาสาระเกี่ยวกับกลุ่มสาระวิชาภาษาไทย
สุขศึกษาและพลศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ศิลปศึกษาและดนตรีกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปศึกษาและดนตรี
การงานอาชีพและเทคโนโลยีกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี


ผู้ติดตาม